รองเท้าฟุตบอล Adidas Predator - Absolute Power Swerve Control - FG - White/Lead

รองเท้าฟุตบอล Adidas Predator - Absolute Power Swerve Control - FG - White/Lead

Adidas Predator Absolute Power Swerve รองเท้ารุ่นที่ดีที่สุดของPredator มีพลังที่รุนแรง สิ่งที่สร้างความแตกต่างนั้นอยู่ที่ความสามารถในการเปลี่ยนพื้นรองเท้าด้านในซึ่งมีน้ำหนักแตกต่างกัน การสร้างความแตกต่างอย่างง่าย ๆ เช่นนี้ทำให้ Absolute Power Swerve เป็นอะไรที่วิเศษอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีแถบยางสำหรับการปั่นลูกฟุตบอลที่ออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรองเท้า ทำให้ Absolute PowerSwerve มีความครบเครื่องอย่างยิ่ง การที่ตัวรองเท้าทำจากหนังจิงโจ้ ซึ่งมีความทนทานและยังมีน้ำหนักมาก มีผลให้รองเท้ารุ่นนี้มีพลังการเตะที่รุนแรงมากขึ้น และพื้นด้านในที่สามารถเพิ่มน้ำหนักได้นั้นทำจากวัสดุพิเศษของ Adidas ที่มีชื่อว่า adiPrene มีความทนทานสูง จุดเด่นอีกอย่างคือการที่รองเท้ามีแทบยางแบบพิเศษในการปั่นลูกฟุตบอลมากกว่าเดิม
มากันที่ส่วนของปุ่มรองเท้า ในรุ่นนี้ปุ่มรองเท้าจะแยกส่วนหน้า- หลังเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ในส่วนหน้าจะสามารถมองเห็นพื้นด้านในเพื่อทำให้รู้ว่าตอนนี้ใช้พื้นแบบไหนอยู่ แน่นอนว่า Predator นั้นมีอุปกรณ์ปิดเชือก โดยในเจเนอเรชั่นนี้ยังคงเป็นเหมือนก่อน โดยการใช้เชือกรัดกับส่วนพื้นล่างของรองเท้า ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับได้ตามความต้องการของตนเอง
Absolute เจเนอเรชั่นใหม่นี้ยังคงเอกลักษณ์แบบเดิมเอาไว้อย่างไม่ขาดหาย บางทีอาจต้องบอกว่าไม่ได้แตกต่างจากตัวเก่าเลยก็ว่าได้มีเพียงแค่ส่วนของแถบยางที่สำหรับการปั่นลูกฟุตบอลซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างดี ทำใหเข้ากับที่ว่า "Power Swerve" ในรุ่นนี้ต้องบอกว่าน่าใช้กว่ารุ่นอื่น เพราะอุปกรณ์เสริมมีมาให้อย่างมากมายครบครัน พื้นรองเท้าด้านใน 2 ชุดทำให้อายุการใช้งานรองเท้ามากขึ้น เพราะหลาย ๆคนจะเจอปัญหาพื้นรองเท้าด้านในมักจะขาดเนื่องจากการเสียดสีกับเท้าผู้ใส่ ทำให้ Absolute Power Swerve ตัวนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อรองเท้าระดับท็อปคลาสเพื่อให้ใช้ได้นาน ๆ

ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บ http://www.siamboots.com/

ข้อมูลทั่วไป

วัสดุหลักของรองเท้า: หนังจิงโจ้
อุปกรณ์ปิดเชือก: มี
เกราะกันกระแทกบริเวณส้นเท้า: มี
การถอดพื้นด้านใน: ถอดได้
จุดเด่นโดยรวม: สามารถเพิ่มน้ำหนักให้รองเท้าได้ มีแถบยางสำหรับปั่นโค้งลูกฟุตบอล เกราะกันกระแทกส้นเท้าแข็งมาก
จุดด้อยโดยรวม: ความนุ่มจากหนังจิงโจ้เหลือน้อย เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยแถบยาง
น้ำหนักโดยประมาณ: -
ประเทศที่ผลิต: เวียดนาม

รองเท้าฟุตบอล Nike CTR360 Trequartista FG - Black/Black-Challenge Red/White สีดำ/แดง

รองเท้าฟุตบอล Nike CTR360 Trequartista FG - Black/Black-Challenge Red/White สีดำ/แดง
ได้ฤกษ์งามยามดีเปิดตัวรองเท้าสายพันธุ์ลูกผสมอย่าง CTR 360 เสียที หลังจากที่ไนกี้ผู้ผลิตรองเท้าฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของโลกเลือกเอาวันที่ 1 ตุลาคม 2009 ที่ผ่านมาเปิดตัวรองเท้าซีรี่ย์ใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า CTR 360 โดยได้ตัว 3 กองกลางระดับโลกมาเป็นพรีเซนเตอร์หลัก ตามจุดเด่นของรองเท้าี่ภายใต้คำว่า "Control"
ผลล่าสุดเชส ฟาเบรกาส ประเดินสนามกับ CTR360 ด้วย 1 ประตู กับ 4 Asist ในนัดถล่มแบล็คเบิร์น 6-2 คงจะการันตีสิ่งที่จะอธิบายต่อไปได้เป็นอย่างดีเลยครับ แต่รุ่นที่ฟาเบสกาวใส่จะเป็นตัวท็อป ส่วนตัวนี้จะเป็นตัวรองท็อปนะครับ

ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ไนกี้จะมีรองเท้าฟุตบอลในตลาดอยู่หลักๆ ด้วยกันถึง 3 ซีรี่ย์แล้ว ได้แก่ T90 ซึ่งเป็นรองเท้าด้านพละ-กำลัง , Mercurial ซึ่งเป็นรองเท้าทางด้านความเร็ว และ Tiempo ซึ่งเป็นรองเท้ารุ่นคลาสสิค แต่สำหรับ CTR 360 แล้วเป็นความคิดสร้างสรรค์จากไนกี้ภายใต้แรงบันดาลใจที่จับเอาจุดเด่นของทั้ง 3 ซีรี่ย์ทั้ง T90 , Mercurial และ Tiempo มารวมกันไว้ใน CTR 360 โดยคำว่า CTR นั่นย่อมาจากคำว่า Control ส่วนเลข 360 นั้นหมายถึง 360 องศา นั้นแสดงถึงความสามารถรอบด้านของรองเท้าซีรี่ย์ใหม่ป้ายแดงนั่นเอง

ข้อมูลทั่วไป
ระดับรองเท้า : Medium

วัสดุหลักบนตัวรองเท้า : หนังวัวไร้รอยต่อ (Full-gain Leather)

ลักษณะเกราะกันกระแทกส้นเท้า : External Heel Counter

วัสดุพื้นรองด้านใน : EVA Foam สามารถถอดพื้นออกมาได้

ขอบคุณข้อมูลจาก www.siamboots.com

Nike Mercurial Vapor V FG - Max Orange/Abyss/Metallic Silver

Mercurial Vapor V สีส้มถือเป็นสีที่คุ้นตาของหลายๆ คน เพราะโรนัลโด้ได้แผลงฤทธ์เอาไว้เยอะ

รองเท้าฟุตบอล Nike Total 90 Strike II FG - Orange/Black/Pine สีส้ม

รองเท้าฟุตบอล Nike Total 90 Strike II FG - Orange/Black/Pine สีส้ม

สีใหม่มาแล้วครับ สีส้มสดใส เปรี้ยวจี๊ด เป็นสีที่ใส่กันจนแสบตาในศึกคอนเฟเดอเรชั่นคัพ ซึ่งตัวนั้นจะเป็นตัวท็อป ซึ่งก็เหมาะกับนักเตะอาชีพ แต่สำหรับนักฟุตบอลแบบเราเอาที่กำลังพอเหมาะกันดีกว่า แค่รองท็อปก็หรูแระ คุณภาพดี ราคาพอเหมาะ ช้าอดหมดเบอร์
ความเคลื่อนไหวของ Total 90 รองเท้าซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก Nike ได้เป็นไปอย่างรวดเร็วและร้อนแรงเหลือเกิน จนในขณะนี้ได้มาถึง ตระกูล Laser ในรุ่นที่ 2 ปัจจุบัน Total 90 มีความจัดเจนในตัวเองมากขึ้นทุกที ๆ ในการที่จะเป็นรองเท้าสำหรับทำลายล้างและถล่มประตูคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นชื่อรองเท้าแต่ละรุ่นในตระกูลนี้ รวมถึงพรีเซนเตอร์ระดับ โลกแต่ละคน แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีใช้กันแต่บรรดาดาวยิงเท่า นั้น ยังรวมถึงบรรดาปราการหลังหรือแม้กระทั่งผู้รักษาประตู Total 90 ชูตัวเองมาตลอดด้วยการใส่ชิ้นส่วนบริเวณที่เป็นพลาสติกแข็งคุณภาพสูง เพื่อ ทำหน้าที่เป็นส่วนสัมผัสกับลูกบอล ทั้งการเพิ่มความแรงและัความแม่นยำของลูกฟุตบอลที่ออกจากเท้าซึ่งถูกเรียกว่า "Strike Zone" โดยรองเท้ารุ่นหลัก ๆ ที่จะวางจำหน่ายได้แก่ Laser , Stike และ Shoot ไล่ตามลำดับ ชื่อของแต่ละรุ่นล้วนแต่บ่งบอกถึงการทำลายล้างอย่างแท้ จริงเลยล่ะครับ
Strike คือชื่อรุ่นรองเท้าระดับรองท็อปในตระกูล Total 90 ซึ่งปัจจุบันมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว และที่สำคัญมาในคราวนี้ราคารองเท้ารุ่นนี้ลดลงจากเดิมอย่างมาก ทำให้ Strike II มีค่าตัวที่ไม่สูงเกินไปแบบที่ผ่านมา แต่ภายในของอาวุธทำลายล้างคู่นี้นั้นจะดีพอเทียงเคียงกับรุ่นท็อปได้มากน้อยเพียงใด เราพอจะมีคำตอบให้ท่านครับ..
ทางผู้ผลิตสร้างความหลากหลายให้ท่านได้เลือกโดยการใช้วัสดุที่แตกต่างกันไปตามสี โดยมีทั้งแบบ หนังสังเคราะห์และหนังวัวแท้ และเนื่องจากภายในรองเท้ามีชั้นหนัง-ผ้าอยู่หลายชั้น จึงเพิ่มความนุ่มมาก ขึ้นไปอีก นอกจากนี้จุดสำคัญที่สุดของรองเท้าตระกูลนี้นั่นก็คือ "Strike Zone" บริเวณสำหรับการยิงประตู ที่แม่นยำและรุนแรง ในร่างรองท็อปนี้ก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังเลยแม้แต่น้อย เพราะบริเวณดังกล่าวนั้นมี ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันกับที่ใช้ในรุ่น Laser ทำให้บริเวณนี้เป็นอะไรที่น่าสัมผัสเสียเหลือเกิน นอกเหนือจากนี้ Strike II ก็มิได้มีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่โดดเด่นอะไรมาก ไม่มีเกราะป้องกันการกระแทกส้นเท้าที่แข็งแกร่งมากนัก ไม่มีระบบ Air Zoom Unit และก็ไม่มีระบบ eVent ซึ่งโดยปกติแล้วเทคโนโลยีพวกนี้จะถูกจำกัด อยู่ในรองเท้ารุ่นท็อปเท่านั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีบรรจุอยู่ในคุณสมบัติพิเศษของรุ่นนี้ จากข้อมูลข้างต้นนั้นพอบอกได้ว่า Strike II ราคาใหม่ที่ประหยัดลงมานั้นเป็นรองเท้าที่น่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างมาก ความสามารถของรองเท้าค่อนข้างไปทางรุ่นท็อป แต่ราคากลับลงมาทางรุ่นเล็ก หน้า กว้างของรองเท้านั้นมีขนาดที่เหมาะสมกับลักษณะเท้าของคนไทยอย่างมาก แต่ถ้าเป็นหนังสังเคราะห์คง ต้องทนความร้อนกันสักหน่อย แต่นั่นคงจะเป็นเรื่องเล็กน้อยถ้าเทียบกับความคุ้มค่าที่จะได้รับ..
ข้อมูลจาก siamboot.com

รองเท้าฟุตบอล Nike T90 Laser II FG Ltd Tour Yellow/Blk/Midnight

รองเท้าฟุตบอล Nike T90 Laser II FG Ltd Tour Yellow/Blk/Midnight

ความเคลื่อนไหวของ Total 90 รองเท้าซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก Nike ได้เป็นไปอย่างรวดเร็วและร้อนแรงเหลือเกิน จนในขณะนี้ได้มาถึง ตระกูล Laser ในรุ่นที่ 2 ปัจจุบัน Total 90 มีความจัดเจนในตัวเองมากขึ้นทุกที ๆ ในการที่จะเป็นรองเท้าสำหรับทำลายล้างและถล่มประตูคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นชื่อรองเท้าแต่ละรุ่นในตระกูลนี้ รวมถึงพรีเซนเตอร์ระดับ โลกแต่ละคน แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีใช้กันแต่บรรดาดาวยิงเท่า นั้น ยังรวมถึงบรรดาปราการหลังหรือแม้กระทั่งผู้รักษาประตู Total 90 ชูตัวเองมาตลอดด้วยการใส่ชิ้นส่วนบริเวณที่เป็นพลาสติกแข็งคุณภาพสูง เพื่อ ทำหน้าที่เป็นส่วนสัมผัสกับลูกบอล ทั้งการเพิ่มความแรงและัความแม่นยำของลูกฟุตบอลที่ออกจากเท้าซึ่งถูกเรียกว่า "Strike Zone" โดยรองเท้ารุ่นหลัก ๆ ที่จะวางจำหน่ายได้แก่ Laser , Stike และ Shoot ไล่ตามลำดับ ชื่อของแต่ละรุ่นล้วนแต่บ่งบอกถึงการทำลายล้างอย่างแท้ จริงเลยล่ะครับ
หลังจาก T90Laser ออกมาได้ประมาณ 1 ปีก็ถึงเวลาของรุ่นที่ 2 ในของ Laser ซึ่งได้รับการพัฒนา และออกแบบใหม่แทบจะทั้งหมดตามออกมาสานต่อความยิ่งใหญ่ของซีรี่ย์นี้ มาคราวนี้ที่เห็นได้ชัด คือรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปอย่างแปลกหูแปลกตา และส่วนที่เรียกว่า "Strike Zone" ที่มีพื้นที่มาก กว่าเก่า ซึ่งเปิดตัวด้วยสีดำทรงพลังที่แอบซ่อนความสดใสอยู่ภายในด้วยสีเขียวสะท้อนแสง ทำให้ Laser 2 ที่ออกมานั้นดูน่าเกรงขามยิ่งนัก ในรุ่นก่อนนั้น Total 90 หันมาใช้วัสดุหลักที่แตกต่างกันอันได้แก่หนังสังเคราะห์ Teijin microfiber และหนังจิงโจ้ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละสีที่ออกมา ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น มาว่ากันที่ส่วน ของพลาสสิกแข็งคุณภาพสูงที่ถูกเรียกว่า "Strike Zone" กันก่อนดีกว่า ตรงพื้นที่บริเวณนี้มีหน้าที่หลัก คือ การเพิ่มความแรงให้กับลูกฟุตบอล รวมถึงควบคุมทิศทางให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นสำหรับลูกฟุตบอลที่ออกจากเท้า โดยจะเห็นได้ชัดเจนว่า ได้มีการเพิ่มพื้นทีมาถึงบริเวณข้างเท้าด้านในและข้างเท้าด้านนอก(ช่วงปลาย เท้า) ช่วยเื้อื้ออำนวยใหกับ้ใครที่ถนัดการยิงด้วยการปั่นโค้ง แต่ใน รุ่นที่เป็นหนังจิงโจ้ที่มีเฉพาะข้างเท้าด้านใน นอกจากนี้ Total 90 ยังชูเทคโนโลยีที่เรียกว่า "eVent" ซึ่งมีหน้าที่ช่วยรักษาสภาพเท้าในขณะที่ใช้ ให้แห้ง(เร็ว)อยู่ตลอดเวลา ในส่วนของอุปกรณ์ปิดเชือกนั้น Total 90 ยังคงใช้รูปแบบเดิมคือไม่มีอุปกรณ์ปิดเชือก แต่จะย้ายแนวเชือกไปอยู่ด้าน ข้างของรองเท้า ต่อมาที่การปกป้องเท้าของผู้ใช้นั้นต้องบอกว่า Total 90 มีระบบป้องกันแรงกระแทกที่สมบูรณ์แบบมาก Total 90 Laser นั้นเป็นซีรี่ย์รองเท้าที่เหมาะสมกับการเล่นเกมที่หนักหน่วง ซึ่งมาใน รุ่นที่ 2 นั้นต้องบอกว่าจุดเด่นตรงนี้มีแต่จะทะยานพุ่งสูงขึ้น สำหรับใครที่ต้องการรองเท้าที่รองรับเกมการเล่นที่หนักหน่วงทั้งการปะทะกับ ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม รวมถึงความหนักหน่วงของลูกฟุตบอลที่ออกไป จากเท้า Total 90 Laser II ตัวใหม่นี้ที่คาดว่าจะเข้ามาวางขายในประเทศไทยช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เป็นคำตอบที่ดีเลยล่ะครับ

รองเท้าฟุตบอล Nike Tiempo Legend III FG - Black/White/Volt

รองเท้าฟุตบอล Nike Tiempo Legend III FG - Black/White/Volt
พรีเซ็นเตอร์คอมเมนต์ : ความนุ่มไม่เข้าใครออกใครเลยจริง
สำหรับรองเท้าฟุตบอล Tiempo Legend III เรื่องความนุ่มของหนังจิงโจ้เป็นจุดเด่นที่ชัดเจน การจับบอลอยู่เท้า เคยเห็นมาลูด้าเอาบอลลงสวยๆ ได้หลายครั้ง ความคลาสสิกที่ได้ความรู้สึก จึงทำให้ยากที่จะลืม Tiempo ได้ลง เลยจริง
รองเท้าสายพันธุ์คลาสสิคจากไนกี้สายพันธุ์นี้ถูกออกแบบให้ดูหรูหราและคลาสสิค มีการเดินเส้นสายลวดลายที่ดูดี ถึงแม้จำเป็น ต้องยึดเอกลักษณ์และการดีไซน์แบบเดิม ๆ ตามตำราของรองเท้าคลาสสิค แต่ Tiempo กลับให้ความรู้สึกที่น่าใช้มากยิ่งขึ้น จุดขายของ รองเท้าตระกูลนี้เน้นไปทางผู้เล่นที่ใช้เทคนิคเฉพาะตัวในการเล่นฟุตบอลเป็น หลัก แต่นั่นก็ไม่จริงเสมอไป เพราะปัจจุบันมีนักฟุตบอลหลาก- หลายสไตล์การเล่นที่เลือกใส่รองเท้ารุ่นเก๋าของไนกี้ลงสนาม หนังแท้ที่มีความนุ่มและน้ำหนักรองเท้าอันทรงพลัง ทำให้รองเท้าสาย พันธุ์ คลาสสิคของไนกี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
นักเตะชื่อดังที่ใช้ Tiempo : เชส ฟาเบรกาส , คาร์ลอส เตเบซ , โจ โคล , รุด ฟาน นิสเตลรอย , มิโรสลาฟ โคลเซ่, ปิร์โล ,มาลูด้า

รายละเอียดเทคโนโลยี -Tiempo Legend III

* ตระกูล: Tiempo

* เกราะกันกระแทกส้นเท้าด้านนอก: ไม่มี

* Lacing: Centred

* วัสดุหลัก: หนังจิงโจ้

* How Attached To Upper: Cemented

* ปุ่ม : Hollow Rubber/PU

* ปุ่มรูปร่าง: Studs และ Blades

* เหมาะสำหรับ: สนามหญ้า

* น้ำหนัก: 305g

รองเท้าฟุตบอล Nike Tiempo Legend III FG - Sail/Techno Blue/Dark Obsidian สีขาว/ฟ้า

รองเท้าฟุตบอล Nike Tiempo Legend III FG - Sail/Techno Blue/Dark Obsidian สีขาว/ฟ้า

พรีเซ็นเตอร์คอมเมนต์ : ความนุ่มไม่เข้าใครออกใครเลยจริง

ต้องบอกว่าสวยหวานเลยทีเดียว สีฟ้ามันสะท้อนแสงนิดๆ ช่างดงามจริง ส่วนสีของหนังก็ขาวดังไข่มุก เกือบอดใจไม่ได้แล้ว
สำหรับรองเท้าฟุตบอล Tiempo Legend III เรื่องความนุ่มของหนังจิงโจ้เป็นจุดเด่นที่ชัดเจน การจับบอลอยู่เท้า เคยเห็นมาลูด้าเอาบอลลงสวยๆ ได้หลายครั้ง ความคลาสสิกที่ได้ความรู้สึก จึงทำให้ยากที่จะลืม Tiempo ได้ลง เลยจริง
รองเท้าสายพันธุ์คลาสสิคจากไนกี้สายพันธุ์นี้ถูกออกแบบให้ดูหรูหราและคลา สสิค มีการเดินเส้นสายลวดลายที่ดูดี ถึงแม้จำเป็น ต้องยึดเอกลักษณ์และการดีไซน์แบบเดิม ๆ ตามตำราของรองเท้าคลาสสิค แต่ Tiempo กลับให้ความรู้สึกที่น่าใช้มากยิ่งขึ้น จุดขายของ รองเท้าตระกูลนี้เน้นไปทางผู้เล่นที่ใช้เทคนิคเฉพาะตัวในการเล่นฟุตบอลเป็น หลัก แต่นั่นก็ไม่จริงเสมอไป เพราะปัจจุบันมีนักฟุตบอลหลาก- หลายสไตล์การเล่นที่เลือกใส่รองเท้ารุ่นเก๋าของไนกี้ลงสนาม หนังแท้ที่มีความนุ่มและน้ำหนักรองเท้าอันทรงพลัง ทำให้รองเท้าสาย พันธุ์ คลาสสิคของไนกี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
นักเตะชื่อดังที่ใช้ Tiempo : เชส ฟาเบรกาส , คาร์ลอส เตเบซ , โจ โคล , รุด ฟาน นิสเตลรอย , มิโรสลาฟ โคลเซ่, ปิร์โล ,มาลูด้า

รายละเอียดเทคโนโลยี -Tiempo Legend III

* ตระกูล: Tiempo

* เกราะกันกระแทกส้นเท้าด้านนอก: ไม่มี

* Lacing: Centred

* วัสดุหลัก: หนังจิงโจ้

* How Attached To Upper: Cemented

* ปุ่ม : Hollow Rubber/PU

* ปุ่มรูปร่าง: Studs และ Blades

* เหมาะสำหรับ: สนามหญ้า

* น้ำหนัก: 305g

รองเท้าฟุตบอล Nike Mercurial Vapor V FG - Black/Voltage Yellow/Max Orange สีดำ

รองเท้าฟุตบอล Nike Mercurial Vapor V FG - Black/Voltage Yellow/Max Orange สีดำ

Mercurial Vapor V ถือเป็นรองเท้ารุ่นท็อปสุดที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในตลาดรองเท้า ฟุตบอล ถึงแม้ว่าไนกี้จะเปลี่ยนเจเนอเรชั่นใหม่ให้กับรองเท้าสายพันธุ์แห่งความเร็วก่อนกำหนดที่เคยเป็น แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็เพื่อเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Flywire ให้กับรองเท้ารุ่นใหม่นี้ เพราะคงไม่มีรองเท้าซีรี่ย์ใดที่จะเหมาะสมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้อีกแล้ว..
รองเท้ารุ่นท็อปคู่นี้ใช้หน้าผ้าเทจินไมโครไฟเบอร์ (Teijin microfiber) ที่เคยใช้มาแต่ไหนแต่ไร เนื่องจากเป็นไมโครไฟเบอร์พิเศษน้ำหนักเบาและทนทาน ซึ่งถูกขึ้นโครงสร้างรองเท้าบริเวณตอนกลางด้วย Flywire เป็นเส้นใยขนาดเหล็กที่ให้ความแข็งแรงดุจเหล็กกล้าที่มีน้ำหนักเบาคอยช่วยเสริมให้รองเท้ามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น บริเวณหลังเท้ามีอุ ปกร์ปิดเชือกอย่างมิดชิดซึ่งโอบรัดไปจนถึงข้างเท้าด้านนอก

ส่วนตำแหน่งสีที่สองของรองเท้าจะมีการเคลือบพื้นผิว PU เพื่อช่วยให้สามารถดึงดูดกับลูกฟุตบอลรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี หุ้มส้นและ พื้นรองด้านในทำจากวัสดุคุณภาพสูงที่ให้ความนุ่มและกระชับพร้อมกับการยึดเกาะกับเท้า ของผู้สวมใส่ได้มากกว่ารองเท้ารุ่นอื่น และเนื่องจากทางผู้ผลิตนั้น เอาเกราะกันกระแทกส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายแบบภายนอก (External Heel Counter) ออกไปแล้ว ทำให้การสวมใส่เจ้า Mercurial Vapor V
คู่นี้น่าจะไม่มีปัญหาการกัดจากรองเท้า ในส่วนของราคาค่าตัวนั้นสูงขึ้น จากเจเนอเรชั่นเก่า (MV IV) อยู่สักหน่อย แต่สำหรับเทคโนโลยีขั้นสูงที่รองเท้าซีรี่ย์อื่นไม่สามารถจะมีได้เหมือน ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับรองเท้าจรวดทางเรียบรุ่นนี้...

ข้อมูลทั่วไป

ระดับรองเท้า : Top

วัสดุหลักบนตัวรองเท้า : หนังสังเคราะห์เทจินไมโครไฟเบอร์ (Teijin microfiber)

ลักษณะเกราะกันส้นเท้า : ภายใน (Internal Heel Counter)

วัสดุพื้นรองด้านใน : EVA Foam

การถอดพื้นรองด้านใน : ถอดได้

วัสดุที่ใช้ทำปุ่ม : PU

ลักษณะปุ่มแบบ FG : ปุ่มใบมีดแบบพิเศษเฉพาะ Mercurial

น้ำหนักโดยประมาณ : 238 กรัม

จุดเด่นโดยรวม : มีเทคโนโลยี Flywire ช่วยเสริมโครงสร้างให้รองเท้าแข็งแรงขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา

สิ่งที่ต่างจากรุ่นอื่น : พื้นรองด้านในมีคุณภาพและให้ความรู้สึกที่กระชับและนุ่มสบาย มีเทคโนโลยี Flywire และมีรูปทรงที่ปราดเปรียว

เปรียบเทียบความน่าใช้ : เป็นรองเท้ารุ่นที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงอยู่ในรองเท้าอย่างครบครัน

รองเท้าฟุตบอล Nike Mercurial Vapor V FG - Orion Blue/Metallic Silver/Obsidian/Max Orange สีฟ้า

รองเท้าฟุตบอล Nike Mercurial Vapor V FG - Orion Blue/Metallic Silver/Obsidian/Max Orange สีฟ้า

สีใหม่มาอีกแล้ว สีนี้เหมาะกับชุดฟุตบอลที่มีสีขาว หรือน้ำเงิน น่าจะเข้ากันได้ดีมาก เน้นใส่แล้วหล่อ 555
Mercurial Vapor V ถือเป็นรองเท้ารุ่นท็อปสุดที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในตลาดรองเท้า ฟุตบอล ถึงแม้ว่าไนกี้จะเปลี่ยนเจเนอเรชั่นใหม่ให้กับรองเท้าสายพันธุ์ แห่งความเร็วก่อนกำหนดที่เคยเป็น แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็เพื่อเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Flywire ให้กับรองเท้ารุ่นใหม่นี้ เพราะคงไม่มีรองเท้าซีรี่ย์ใดที่จะเหมาะสมกับ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้อีกแล้ว..
รองเท้ารุ่นท็อปคู่นี้ใช้หน้าผ้าเทจินไมโครไฟเบอร์ (Teijin microfiber) ที่เคยใช้มาแต่ไหนแต่ไร เนื่องจากเป็นไมโครไฟเบอร์พิเศษน้ำหนัก เบาและทนทาน ซึ่งถูกขึ้นโครงสร้างรองเท้าบริเวณตอนกลางด้วย Flywire เป็นเส้นใยขนาดเหล็กที่ให้ความแข็งแรงดุจเหล็กกล้าที่มีน้ำหนักเบาคอยช่วย เสริมให้รองเท้ามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น บริเวณหลังเท้ามีอุ ปกร์ปิดเชือกอย่างมิดชิดซึ่งโอบรัดไปจนถึงข้างเท้าด้านนอก

ส่วนตำแหน่งสีที่สองของรองเท้าจะมีการเคลือบพื้นผิว PU เพื่อช่วยให้สามารถดึงดูดกับลูกฟุตบอลรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี หุ้มส้นและ พื้นรองด้านในทำจากวัสดุคุณภาพสูงที่ให้ความนุ่มและกระชับพร้อมกับการยึด เกาะกับเท้า ของผู้สวมใส่ได้มากกว่ารองเท้ารุ่นอื่น และเนื่องจากทางผู้ผลิตนั้น เอาเกราะกันกระแทกส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายแบบภายนอก (External Heel Counter) ออกไปแล้ว

ทำให้การสวมใส่เจ้า Mercurial Vapor V
คู่นี้น่าจะไม่มีปัญหาการกัดจากรองเท้า ในส่วนของราคาค่าตัวนั้นสูงขึ้น จากเจเนอเรชั่นเก่า (MV IV) อยู่สักหน่อย แต่สำหรับเทคโนโลยีขั้นสูงที่รองเท้าซีรี่ย์อื่นไม่สามารถจะ มีได้เหมือน ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับรองเท้าจรวดทางเรียบรุ่นนี้...
ข้อมูลทั่วไป ระดับรองเท้า : Top

วัสดุหลักบนตัวรองเท้า : หนังสังเคราะห์เทจินไมโครไฟเบอร์ (Teijin microfiber)

ลักษณะเกราะกันส้นเท้า : ภายใน (Internal Heel Counter)

วัสดุพื้นรองด้านใน : EVA Foam

การถอดพื้นรองด้านใน : ถอดได้

วัสดุที่ใช้ทำปุ่ม : PU

ลักษณะปุ่มแบบ FG : ปุ่มใบมีดแบบพิเศษเฉพาะ Mercurial

น้ำหนักโดยประมาณ : 238 กรัม

จุดเด่นโดยรวม : มีเทคโนโลยี Flywire ช่วยเสริมโครงสร้างให้รองเท้าแข็งแรงขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา สิ่งที่ต่างจากรุ่นอื่น : พื้นรองด้านในมีคุณภาพและให้ความรู้สึกที่กระชับและนุ่มสบาย มีเทคโนโลยี Flywire และมีรูปทรงที่ปราดเปรียว

เปรียบเทียบความน่าใช้ : เป็นรองเท้ารุ่นที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงอยู่ในรองเท้าอย่างครบครัน

รองเท้าฟุตบอล Nike Air Legend II - BlackVolt - FG

รองเท้าฟุตบอล Nike Air Legend II - BlackVolt - FG

Tiempo Air Legend II เป็นรองเท้ารุ่นท็อปในตระกูลคลาสสิคของไนกี้ ซึ่งมีประวัติมาอย่างยาวนานและเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในวงการฟุตบอล ราคาที่แสนจะคุ้มค่าและสามารถหาซื้อในเมืองไทยได้แทบทุกสี จึงทำให้มักจะพบเจอกับรองเท้ารุ่นเก๋าคู่นี้ในสนามฟุตบอลเสมอ
รองเท้ารุ่นท็อปคู่นี้มีหน้าผ้ารองเท้าที่ทำจากหนังจิงโจ้คุณภาพ สูง แนวร้อยเชือกรองเท้ายังคงเป็นบริเวณตรงกลางหลังเท้าที่มีลิ้นสั้น ๆ ทำหน้าที่ป้องกันเชือกส่วนบนที่ผูกไว้ไม่ให้หลุด ซึ่งลิ้นดังกล่าวนั้น ถูกยึดติดด้วยตีนตุ๊กแกขนาดเล็ก หุ้มส้นภายในนั้นน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
แผ่นรองพื้นเท้ามีพื้นผิวที่ช่วยในการยึดเกาะกับเท้าของผู้สวมใส่ไม่ให้ ลื่น ภายในมี Air Zoom Unit ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นสู่เท้าขณะวิ่ง แต่เกราะกันกระแทกส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายนั้นเป็นแบบภายในซึ่งแตกต่างจากเจเนอเรชั่นเก่า ชุดพื้นและปุ่มรองเท้าดีไซน์สวยงามและดูหรูหราเป็นอย่างมาก มีทั้งลวดลายและส่วนที่เป็นโลหะเบาคอยสะท้อนแสงอย่างเงางาม น้ำหนักตัวของรองเท้าตระกูลคลาสสิคจากไนกี้
ตระกูลนี้นั้นมีน้ำหนักตัวมากกว่าคู่แข่งยี่ห้ออื่น แต่ก็ถือเป็นความ แตกต่างที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อ เพราะรองเท้ารุ่นนี้คงจะเป็นที่โปรด ปรานของบรรดานักฟุตบอลที่ชอบยิงหนักๆ อย่างแน่นอน...
ข้อมูลทั่วไป ระดับรองเท้า : Top วัสดุหลักบนตัวรองเท้า : หนังจิงโจ้ ลักษณะเกราะกันส้นเท้า : ภายใน (Internal Heel Counter) วัสดุพื้นรองด้านใน : - การถอดพื้นรองด้านใน : ถอดได้ วัสดุที่ใช้ทำปุ่ม : PU ลักษณะปุ่มแบบ FG : ปุ่มกลม น้ำหนักโดยประมาณ : 312 กรัม จุดเด่นโดยรวม : หนังจิงโจ้มีความหนานุ่ม มี Air Zoom Unit ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้น สิ่งที่ต่างจากรุ่นอื่น : แผ่นรองพื้นเท้าด้านในมีความสามารถในการยึดเกาะกับเท้าของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี เปรียบเทียบความน่าใช้ : รองเท้ารุ่นท็อปประหยัดราคาแต่ไม่ประหยัดเทคโนโลยี
ข้อมูลจาก Siamboots.com

รองเท้าฟุตบอล Nike CTR360 Maestri FG - Black/White/Challenge Red สีดำ/แดง

รองเท้าฟุตบอล Nike CTR360 Maestri FG - Black/White/Challenge Red สีดำ/แดง
ได้ฤกษ์งามยามดีเปิดตัวรองเท้าสายพันธุ์ลูกผสมอย่าง CTR 360 เสียที หลังจากที่ไนกี้ผู้ผลิตรองเท้าฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของโลกเลือกเอาวันที่ 1 ตุลาคม 2009 ที่ผ่านมาเปิดตัวรองเท้าซีรี่ย์ใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า CTR 360 โดยได้ตัว 3 กองกลางระดับโลกมาเป็นพรีเซนเตอร์หลัก

ตามจุดเด่นของรองเท้าี่ภายใต้คำว่า "Control"
ผลล่าสุดเชส ฟาเบรกาส ประเดินสนามกับ CTR360 ด้วย 1 ประตู กับ 4 Asist ในนัดถล่มแบล็คเบิร์น 6-2 คงจะการันตีสิ่งที่จะอธิบายต่อไปได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ไนกี้จะมีรองเท้าฟุตบอลในตลาดอยู่หลักๆ ด้วยกันถึง 3 ซีรี่ย์แล้ว ได้แก่ T90 ซึ่งเป็นรองเท้าด้านพละ-กำลัง , Mercurial ซึ่งเป็นรองเท้าทางด้านความเร็ว และ Tiempo ซึ่งเป็นรองเท้ารุ่นคลาสสิค แต่สำหรับ CTR 360 แล้วเป็นความคิดสร้างสรรค์จากไนกี้ภายใต้แรงบันดาลใจที่จับเอาจุดเด่นของทั้ง 3 ซีรี่ย์ทั้ง T90 , Mercurial และ Tiempo มารวมกันไว้ใน CTR 360 โดยคำว่า CTR นั่นย่อมาจากคำว่า Control ส่วนเลข 360 นั้นหมายถึง 360 องศา นั้นแสดงถึงความสามารถรอบด้านของรองเท้าซีรี่ย์ใหม่

ป้ายแดงนั่นเอง

รองเท้าฟุตบอล Adidas F30i TRX-FG - (Cyan/Running White/Black)

รองเท้าฟุตบอล Adidas F30i TRX-FG - (Cyan/Running White/Black)
รองเท้าฟุตบอลรุ่นใหม่สำหรับซีซัน 2009/10 ที่อาดิดาสได้ปรับปรุงจาก F30 รุ่นที่แล้ว

จนมาเป็น F30i !!
F30i มีคุณสมบัติหลายอย่างที่เหมือนกับรุ่น F50i แต่มีราคาย่อมเยาว์กว่าครึ่ง หนังรองเท้าทำจาก PU Microfiber ที่ถูกพัฒนาขึ้นล่าสุด หรือที่เรียกว่า adiSoft ทำให้รองเท้ามีความนุ่มนวลมากและมีความทนทานเป็นเยี่ยม ส่วนคุณสมบัติอื่น นั้น F30i จะมีสารต่อต้านและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เพื่อป้องกันกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และมี Sticky Grip ที่ด้านหน้าเพื่อช่วยในการคอลโทรลบอล

และช่วยในการยิงประตู
ซี่รี่ย์ F รุ่นใหม่ของอาดิดาส มีนักเตะระดับโลกหลายคนที่ใช้ตระกูล F อยู่ เช่น ลีโอเนล เมสซี่ ,

เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, แอชลี่ย์ ยัง

รองเท้าฟุตบอล Adidas F50i TUNIT Start Kit Leather Messi - New Navy/Metallic Gold/Argentina สี เมสซี่

รองเท้าฟุตบอล Adidas F50i TUNIT Start Kit Leather Messi - New Navy/Metallic Gold/Argentina สีเมสซี่
ความเห็นพรีเซ็นเตอร์ : ดูตอนแรกเหมือนจะไม่สวย แต่พอดูของจริง ต้องยอมรับว่ามีเสน่ห์เลยครับ

ไม่งั้นเมสซี่คงไม่ยอมใส่F50i สีกรมท่า รุ่นนี้เป็นรองเท้าฟุตบอลรุ่นของเมสซี่ ซึ่งสีนี้เมสซี่ได้ใส่ประเดิมสนามไปแล้ว โดยเวอร์ชันหนังสัตว์ได้มีการปรับปรุงมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าอายุการใช้งานและความทน ทานของการรองเท้าเพิ่มขึ้น. และให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับรองเท้าหนังสัตว์รุ่นอื่นๆ คือ ความนุ่มสบายเท้าและความรู้สึกในการสัมผัสกับลูกบอลจะถูกปรับปรุงขึ้นอย่างมาก
คุณลักษณะอื่นของ F50i นั้นจะมีสารต่อต้านและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เพื่อป้องกันกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และมี Sticky Grip ที่ด้านหน้าเพื่อช่วยในการคอลโทรลบอลและช่วยในการยิงประตู
F50i ได้ทำการการเพิ่ม sockliner เพื่อให้มั่นใจว่าเท้าและรองเท้าจะเคลื่อนไหวอย่างเป็นหนึ่งเดียว F50i Comfort Pack มาพร้อมกับปุ่มสตั๊ด 3 ชุด สามารถเปลี่ยนปุ่มได้

เพื่อให้ผู้เล่นสามารถสวมรองเท้าลงสนามได้ทุกพื้นผิว
ซี่รี่ย์ F รุ่นใหม่ของอาดิดาส มีนักเตะระดับโลกหลายคนที่ใช้ตระกูล F อยู่ เช่น ลีโอเนล เมสซี่ ,เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, แอชลี่ย์ ยัง

รองเท้าฟุตบอล adidas adiPURE II TRX FG UCL - Red/Running White/Black สีแดง/ขาว

รองเท้าฟุตบอล adidas adiPURE II TRX FG UCL - Red/Running White/Black สีแดง/ขาว
adiPURE II สีใหม่มาแล้วๆๆๆ ครับ รองเท้าฟุตบอลสีแดงเจ็บจี๊ดจริงๆ พูดไม่ออกอ่ะ สีมันแรงจริงๆ ใครที่แรงๆ ก็ลองเอาไปใส่ได้นะ หญิงกรี๊ดแน่ๆ อารมณ์นี้อธิบายไม่ถูก ต้องลองใส่เองถึงจะรู้
หลังจากที่อาดิดาสประสบความสำเร็จจาก adiPURE ไปเป็นอย่างมากในปี 2008 ที่ผ่านมา และในปี 2009 นี้ก็ได้มาถึงเวลาของ adiPURE II บ้าง อาดิดาสยังคงใช้จุดเด่นเดิมๆ ที่เคยได้ รับความสำเร็จมาจาก adiPURE มาใส่ใน adiPURE แต่ด้วยความเป็นรองเท้าคลาสสิค จึงทำ ให้ adiPURE ไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากมายหนัก นอกเหนือจากหนังสัตว์นุ่มๆ ซึ่งเคยเป็นที่ติด อกติดใจของแฟนๆ มาแล้วทั่วทั้งโลก นักเตะชื่อดังที่ใช้ adiPURE II : ริคาร์โด้ กาก้า , แฟรงก์ แลมพาร์ด , อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่
adiPURE II คือตระกูลรองเท้าคลาสสิคที่สืบทอดมาจาก Copa ด้วยการที่รองเท้าตระกูลนี้เป็นรองเท้าคลาสสิค จึงทำให้อาดิดาสไม่ได้บรรจุเทคโนโลยีล้ำสมัยอะไรมากมายให้กับรองเท้าตระกูลนี้ แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือหนังสัตว์คุณภาพสูงที่ให้ความนุ่มเท้าแก่ผู้ส่วนใส่เป็นอย่างมาก ทางอาดิดาสเลือกหนังสัตว์คุณภาพสูงผนวกกับการทำบริเวณสัมผัสลูกฟุตบอลให้มีความหนามาก ถึง 2 ชั้น จึงทำให้แฟนๆรองเท้าฟุตบอลหลายคนหันมาสนใจรองเท้าคลาสสิคคู่นี้แล้วเป็นจำนวนมาก ด้วยการที่ไม่ควรจะใส่เทคโนโลยีล้ำสมัยลงไปบนรองเท้า จึงทำให้ในรุ่นใหม่นี้ทางอาดิดาสดัดแปลงรูปร่างใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการเอาแนวร้อยเชือกให้เอียงออกไปด้านนอกเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสลูกฟุตบอลบริเวณข้างเท้าด้านในให้มีมากขึ้น และยังเดินรอยเย็บบนรองเท้าบริเวณด้านหน้าให้มีความลึกและวางตัวใกล้กันเป็นอย่างมาก จึงทำให้พื้นที่ตรงส่วนนั้นสามารถช่วยในการปั่นลูกฟุตบอลได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้น้ำหนักตัวของรองเท้าทั้งตระกูลจะอยู่ในระดับปากกลาง ทำให้เหมาะสมต่อการเล่นฟุตบอลทุกรูปแบบ รองเท้าทั้งหมดในตระกูลนี้มีด้วยกัน 3 รุ่นได้แก่ adiPURE II ,adiCORE และ adiNOVAซึ่ง adiPURE นั้นเป็นชื่อที่ต่อมาจากรุ่นเก่า
ข้อมูลจาก http://www.siamboots.com/

ข้อมูลทั่วไป
ระดับ Top
วัสดุหลักของรองเท้า หนังจิงโจ้ (K-Leather)
วัสดุพื้นรองด้านใน adiPrene
เกราะกันกระแทกบริเวณส้นเท้า Internal Heel Counter
การถอดพื้นด้านใน ถอดได้
วัสดุที่ใช้ทำปุ่ม PU
ลักษณะปุ่มแบบ FG : ปุ่มใบมีด
จุดเด่นโดยรวม ในรุ่นใหม่นี้แนวร้อยเชือกถูกวางให้เอียงออกไปทางด้านนอกมากขึ้น ทำ ให้พื้นที่สัมผัสบอลบริเวณข้างเท้าด้านในมีมากมาย และยังมีความนุ่ม จากหนังจิงโจ้บริเวณดังกล่าวมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
สิ่งที่ต่างจากรุ่นอื่น พื้นรองเท้าด้านล่างสวยงามและแข็งแรงมาก มีการเขียนคำว่า adiPURE อย่างสวยงาม
เปรียบเทียบความน่าใช้ มีความน่าใช้มากที่สุด หนังจิงโจ้มีความนุ่มและคุณภาพสูงมาก บาง ตำแหน่งมีลูกเล่นสวยงาม คุ้มราคา
น้ำหนักโดยประมาณ 260 กรัม
ประเทศที่ผลิต อินโดนีเซีย

Adidas adiPURE II - Rome - FG - Cardinal

Adidas adiPURE II - Rome - FG - Cardinal
หลังจากที่อาดิดาสประสบความสำเร็จจาก adiPURE ไปเป็นอย่างมากในปี 2008 ที่ผ่านมา และในปี 2009 นี้ก็ได้มาถึงเวลาของ adiPURE II บ้าง อาดิดาสยังคงใช้จุดเด่นเดิมๆ ที่เคยได้ รับความสำเร็จมาจาก adiPURE มาใส่ใน adiPURE แต่ด้วยความเป็นรองเท้าคลาสสิค จึงทำ ให้ adiPURE ไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากมายหนัก นอกเหนือจากหนังสัตว์นุ่มๆ ซึ่งเคยเป็นที่ติด อกติดใจของแฟนๆ มาแล้วทั่วทั้งโลก นักเตะชื่อดังที่ใช้ adiPURE II : ริคาร์โด้ กาก้า , แฟรงก์ แลมพาร์ด , อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่
adiPURE II คือตระกูลรองเท้าฟุตบอลคลาสสิคที่สืบทอดมาจาก Copa ด้วยการที่รองเท้าฟุตบอลตระกูลนี้ไม่ได้บรรจุเทคโนโลยีล้ำสมัยอะไรมากมายให้กับรองเท้าฟุตบอลตระกูล นี้ แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือหนังสัตว์คุณภาพสูงที่ให้ความนุ่มเท้า แก่ผู้ส่วมใส่เป็นอย่างมาก ทางอาดิดาสเลือกหนังสัตว์คุณภาพสูงผนวกกับการทำบริเวณสัมผัสลูกฟุตบอลให้มี ความหนามาก จึงสามารถจับบอลได้นุ่มนวล จึงทำให้แฟนๆ รองเท้าฟุตบอลหลายคนหันมาสนใจรองเท้าฟุตบอลคลาสสิคคู่นี้แล้วเป็นจำนวนมาก ทางอาดิดาสดัดแปลงรูปร่างใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการเอาแนวร้อยเชือกให้เอียงออกไปด้านนอกเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสลูกฟุตบอลบริเวณข้างเท้าด้านในให้มีมากขึ้น และยังเดินรอยเย็บบนรองเท้าฟุตบอลบริเวณด้านหน้าให้มีความลึกและวางตัวใกล้กันเป็น อย่างมาก จึงทำให้พื้นที่ตรงส่วนนั้นสามารถช่วยในการปั่นลูกไซด์โค้งได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้น้ำหนักตัวของรองเท้าฟุตบอลทั้งตระกูลนี้จะอยู่ในระดับปานกลาง ทำให้เหมาะสมต่อการเล่นฟุตบอลทุกรูปแบบ
ข้อมูลจาก http://www.siamboots.com/

ข้อมูลทั่วไป
ระดับ Top

วัสดุหลักของรองเท้า หนังจิงโจ้ (K-Leather)

วัสดุพื้นรองด้านใน adiPrene
เกราะกันกระแทกบริเวณส้นเท้า Internal Heel Counter
การถอดพื้นด้านใน ถอดได้
วัสดุที่ใช้ทำปุ่ม PU
ลักษณะปุ่มแบบ FG : ปุ่มใบมีด

จุดเด่นโดยรวม ในรุ่นใหม่นี้แนวร้อยเชือกถูกวางให้เอียงออกไปทางด้าน นอก มากขึ้น ทำให้พื้นที่สัมผัส บอลบริเวณข้างเท้าด้านในมี มากมาย และยังมีความนุ่มจากหนังจิงโจ้บริเวณดังกล่าวมาก ขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย สิ่งที่ต่างจากรุ่นอื่นพื้นรองเท้าด้านล่าง สวยงามและแข็งแรงมาก มีการเขียนคำว่า adiPURE อย่าง สวยงาม เปรียบเทียบความน่าใช้มีความน่าใช้มากที่สุด หนัง จิงโจ้มีความนุ่มและคุณภาพสูงมาก

บางตำแหน่งมีลูกเล่นสวยงาม คุ้มราคา
น้ำหนักโดยประมาณ 260 กรัม
ประเทศที่ผลิต อินโดนีเซีย